วันอังคารที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2556

How to silver hair?

HOW TO SILVER?

               หลังจากที่ฉบับที่แล้ว  เราได้เสนอเรื่องราวเกี่ยวกับการทำสีผมอย่างไรให้ได้สีสันที่สดใสเหมือนอย่างศิลปิน K –pop ไปแล้ว  แต่คิดว่าหลายๆ  คนอาจจะยังนึกภาพตามไม่ทัน  ดังนั้นวันนี้เราจะกลับมาเกาะกระแส K-pop กันอีกรอบ  โดยวันนี้เราจะมาสาธิตวิธีการทำสีผมแบบ Step By Stepให้ได้ลองทำตามกันเลยทีเดียว  โดยวันนี้ทางทีมงาน REVLONได้รับเกียรติจากพี่ฝน แห่งบ้าน AF  ซึ่งปัจจุบันพี่ฝนทำงานที่บริษัทTrue Fantasia ในตำแหน่ง  Artist Management  มาเป็นนางแบบให้กับเราในวันนี้   และสีที่เราจะทำให้กับพี่ฝน คือสีเบอร์ 10.21 ( บรอนด์อ่อนมากที่สุด-ประกายม่วงเหลือบหม่น ) หรือสี SILVER

               ซึ่งสีผมเดิมของพี่ฝนได้ผ่านการทำสีมาบ้างแล้วและมีการฟอกสีมาบ้างแล้วในช่วงปลายผม แต่ก็มีส่วนโคนผมที่ขึ้นมาใหม่เป็นผมธรรมชาติระดับ ความยาวประมาณเซนติเมตร ทีนี้ก็จะมาถึงขั้นตอนการลงมือปฎิบัติกัน

ขั้นตอนแรกที่ขาดไม่ได้และห้ามลืมเด็ดขาด สำหรับกรณีที่ต้องการฟอกสีผมก็คือการปกป้องหนังศีรษะ เพราะ อาจเกิดการระคายเคืองหนังศีรษะได้  ในบางรายที่เป็นไม่มากอาจเกิดแค่อาการแสบคัน  แต่ในบางรายที่เป็นมาก  หนังศีรษะอาจเกิดอาการระคายเคืองเป็นผื่นแดง  แสบร้อนได้  ดังนั้นเราก็จะมีเซรั่มปกป้องหนังศีรษะชื่อว่าAntiporosity ซึ่งเป็นเซรั่มถนอมเส้นผมก่อนทำเคมี  มีส่วนผสมสารสกัดของชาโมมายด์  ช่วยในเรื่องป้องการอาการแพ้   แสบร้อน  สามารถใช้ทาบริเวณหนังศีรษะโดยตรง หลังจากลงเซรั่มกันแพ้แล้ว

ขั้นตอนที่ เราจะเริ่ม bleachingตรงส่วนที่เป็นท่อนกลางผมก่อน  คือจะเราจะเว้นผมช่วงโคนประมาณ 1 เซนติเมตร  แล้วbleaching ตรงส่วนที่เป็นผมธรรมชาติ ส่วนปลายที่เป็นสีระดับ 10 อยู่แล้วเราจะไม่ไปยุ่งกับส่วนนั้น  โดยการ bleaching ส่วนนี้เราจะผสมซุปเปอร์แมซกับเปอร์ออกไซด์ 6% ในอัตราส่วน 1:1  เมื่อได้ผสมซุปเปอร์แมซเรียบร้อยแล้ว เราก็จะแบ่งผมเป็นช่อๆ แล้วลงให้ทั่วทั้งศีรษะ  หลังจากนั้นใช้พลาสติกคลุมให้เรียบร้อย  เพื่อให้อุณหภูมิทั่วทั้งศีรษะเท่ากัน  ซุปเปอร์แมซจะได้ทำงานอย่างเต็มที่ แล้วจะทิ้งเวลาไว้ประมาณ 40 นาที สีผมเริ่มปรับความสว่างขึ้นมาอยู่ที่ประมาณระดับ  7-8  แต่มันก็ยังสว่างไม่พอกับความต้องการของเรา  เราต้องการจะให้มันสว่างขึ้นไปอีกจนถึงระดับ 11  ดังนั้นเราจะทำการ bleaching  ซ้ำใหม่อีก 1 ครั้ง  โดยครั้งที่ 2  นี้ เราจะผสมซุปเปอร์แมซกับเปอร์ออกไซด์ 6%  เหมือนเดิม  แต่จะเปลี่ยนอัตราส่วน โดยครั้งนี้จะใช้เป็นอัตราส่วน 1:2  ( ซุปเปอร์แมซ 1 ส่วน กับ เปอร์ออกไซด์ ส่วน ) จากนั้นเราจะนำผ้าแห้งมาเช็ดซุปเปอร์แมซที่ลงไว้ครั้งแรกให้หมดก่อน  ที่จะ bleachingซ้ำครั้งที่ 2  เมื่อซุปเปอร์แมซบนผมออกหมดแล้วจึงนำซุปเปอร์แมซที่ผสมไว้  ลงซ้ำบริเวณเดิม  จากนั้นใช้พลาสติกคลุมให้เรียบร้อย แล้วทิ้งเวลาไว้อีกประมาณ 45 นาที สีผมท่อนกลางจากเดิมที่มีความสว่างอยู่ที่ระดับ 2 ตอนนี้ได้สว่างขึ้นมาเกือบถึงระดับ 11 แล้ว  ทีนี้เราก็จะมา bleaching ส่วนต่อไปกันเลย โดยส่วนต่อไปเราจะเข้าใกล้โคนเข้าไปอีกนิด จากตอนแรกที่เราเว้นตรงช่วงโคนไว้ 1 เซนติเมตร

ขั้นตอนที่ 3  เราก็จะมาลงผงฟอกส่วนที่เหลือกัน  ซึ่งส่วนนั้นก็คือ  โคนผม  ซึ่งเป็นผมธรรมชาติที่เราเว้นไว้ครึ่งเซนติเมตรตั้งแต่ตอนแรก  โดยใช้เป็นซุปเปอร์แมซกับเปอร์ออกไซด์ 6% เหมือนเดิม ในอัตราส่วน 1:1 เมื่อผสมเสร็จก็จะทำการ bleaching  ตรงช่วงโคน  หลังจากที่ลงโคนผมจนทั่วศีรษะแล้ว  ก็จะห่อด้วยพลาสติกเช่นเดิมแล้วทิ้งเวลาไว้อีก 1 ชั่วโมง เราก็จะได้สีผมเป็นสีเหลืองนวลหรือถ้าไปเทียบที่ชาร์ตสีก็จะอยู่ที่ระดับ 11  พอได้สีตามต้องการเราก็จะไปล้างซุปปอร์แมซออกให้สะอาดด้วยน้ำเปล่า 1 รอบ  จากนั้นก็สระด้วยแชมพูอีก 1 ครั้ง เพราะอย่างที่เคยกล่าวไปหลายครั้งแล้วว่า ตอนที่เราล้างผงฟอกออกนั้น  น้ำเปล่าเพียงอย่างเดียวไม่สามารถที่จะล้างเอาผงฟอกที่ซุกซ่อนอยู่ตามเกล็ดผมออกได้หมด  ต้องใช้แชมพูเข้ามาช่วยในการนำผงฟอกมาจากเส้นผมให้สะอาดหมดจด  และในทางกลับกันถ้าเราล้างผงฟอกออกไม่หมด  ผงฟอกที่ยังค้างอยู่บนเส้นผมก็จะทำงานต่อไปเรื่อยๆ ผลที่ได้ก็คือ สุขภาพก็จะแห้งเสียและอาจขาดหลุดร่วงได้  หลังจากที่เราล้างผงฟอกออกเรียบร้อย ก็ควรจะบำรุงเส้นผมด้วยเซรั่มสีฟ้า เอสเซนเชี่ยลออย์ด้วย ก็จะได้ผมที่ผ่านการฟอกเป็นสีเหลืองนวลระดับ 11 

ขั้นตอนสุดท้าย พอเราฟอกผมเป็นที่เรียบร้อย  ก็จะถึงขั้นตอนนการลงสี  เพราะอย่างที่บอกตั้งแต่ต้นว่า สีที่เราเลือกให้นั้นเป็นสีเบอร์ 10.21 ซึ่งสูตรของการผสมสีคือ 10.21 (30 ml.)+1.11 (1 ml.)+ เปอร์ออกไซด์ 3% (60 ml.)  ซึ่งสูตรของสีที่ใช้เป็นกลุ่มไฮลิฟล์ เวลาที่เราจะลงสีบนผมที่เพิ่งผ่านการฟอกมา ก็ควรจะปกป้องหนังศีรษะด้วยเซรั่มปกป้องหนังศีรษะชื่อว่าSoothing Infusion  และแนะนำให้ลงสีบนผมหมาด หลังจากที่เราลงสีเสร็จเรียบร้อยแล้ว  เราจะทิ้งเวลาไว้ประมาณ 5-10 นาที  ( หรือตามความต้องการของเราว่าอยากให้สีมีความชัดเจนมากน้อยเพียงใด )  หลังจากได้สีตามต้องการก็ล้างสีออกด้วยน้ำเปล่า  แล้วสระด้วยแชมพูบลอนด์ อัพ 1 รอบ และนูทรีคัลเลอร์เบอร์ 1002 เพื่อปิดเกล็ดเส้นผมและกดเม็ดสีส้มในเส้นผม  เพราะการที่เราปิดเกล็ดเส้นผมทันทีหลังจากที่ทำสีเสร็จจะทำให้สีติดทนนานมากยิ่งขึ้น 

พอล้างสีเสร็จเรียบร้อย ก็บำรุงอีกขั้นต้อนด้วย เพอร์เฟคบลอนด์คอนดิชั่นเนอร์ ก่อนไดร์ ก็จะทำการจัดแต่งทรงตามปกติ  ทีนี้เราก็จะได้สีเบอร์ 10.21  ตามที่เราต้องการ เป็นอันเสร็จขั้นตอน และนี่คือวิธีการทำสีผมแบบละเอียด  Step By Step กันเลย เพื่อให้ได้สีที่สดใส เด่นชัด และสวยงามตามสไตล์ ศิลปิน K-pop

เต็มสิริ อนงค์ และ ศิริสิน เหรียญทองคำ เทคนิเชี่ยลสาธิต

นวพล เรืองอมรกิจ เรียบเรียง

วันอังคารที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2556

IL MAGNIFICO - Intercosmo | Le chiome di Vale

http://www.youtube.com/v/QdIkU9B1A9U?version=3&autohide=1&autohide=1&showinfo=1&autoplay=1&feature=share&attribution_tag=RJ6kGGtW_YfW1AEOTouNGQ

วันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2556

การถวายสังฆทาน

การถวายสังฆทาน เป็นการทำบุญที่คนไทยเชื่อกันว่า เป็นการทำทานที่ได้บุญมาก เพราะ สังฆทาน เป็นการถวายทานที่ไม่ระบุเฉพาะว่าเป็นพระสงฆ์รูปใด ผู้ที่ประสงค์จะทำทานจะเตรียมสิ่งของที่จะถวายทาน เมื่อพร้อมแล้วนำไปยังวัด บอกท่านเจ้าอาวาสว่า ต้องการถวายสังฆทาน ท่านจะนิมนต์พระสงฆ์รูปใดมารับสังฆทานก็ได้ หรือจะเตรียมของแล้วนำของไปยังวัด ไปพบพระสงฆ์รูปใดก็แจ้งความจำนงขอถวายสังฆทาน ท่านก็จะทำพิธีรับสังฆทาน หากกำหนดว่าจะถวายแก่พระรูปใดรูปหนึ่ง การทานนั้นก็ไม่เป็น สังฆทาน
ของที่จะถวายสังฆทาน มักเป็นอาหาร และสิ่งของที่จำเป็นสำหรับภิกษุสามเณร เช่น สบง จีวร ผ้าเช็ดตัว แปรงสีฟัน ยาสีฟัน สบู่ เครื่องกระป๋อง นม อาหารแห้ง เป็นต้น รวมถึง ชา กาแฟ โอวัลติน และเงิน ตามความจำเป็น ตามความพอใจของผู้ที่จะทำสังฆทาน

ถ้าต้องการอุทิศส่วนบุญ ส่วนกุศลให้แก่ผู้ใด ผู้ถวายทานก็มักจะบอก หรือเขียนชื่อ นามสกุล ให้แก่พระภิกษุ เพื่อท่านจะได้ทำพิธีอุทิศส่วนกุศลไปยังผู้ที่บอกชื่อนั้น ๆ

การทำพิธีถวายสังฆทาน ไม่มีอะไรยุ่งยาก เมื่อนำสิ่งของไปและพระสงฆ์รู้ความประสงค์ ท่านก็จะให้จุด ธูป เทียน แล้วก็ว่า นโม 3 จบ แล้วกล่าวถวาย สังฆทาน ดังนี้

อิมานิ มยงภันเต ภตตานิ สปริวารานิ ภิกขุสงคสส โอโณชยาม โร ภนเต ภิกขุ สงโฆ อิมานิ ภตตานิ สปริวารานิ ปฏิคคณหาตุ อมหากํ ฑีฆรตตํ หิตาย สุขาย

ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอถวายภัตตาหาร กับทั้งบริวารทั้งหลายเหล่านี้แด่พระภิกษุสงฆ์ ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับ ซึ่งภัตตาหาร กับทั้งบริวารทั้งหลายเหล่านี้ของข้าพเจ้าทั้งหลาย เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขแก่ข้าเจ้าทั้งหลาย สิ้นกาลนานเทอญ

พระสงฆ์จบจะ “สาธุ” แล้วก็ถวายของที่เป็นสังฆทานทั้งหมดให้ท่าน แล้วท่านก็จะให้ศีล ให้พร ยถา สัพพี ผู้ถวายสังฆทานก็กรวดน้ำ แผ่ส่วนบุญกุศล เป็นอันเสร็จพิธีทำบุญถวายสังฆทาน